วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

บทที่2 ไอทีคืออะไร

บทที่ 2 ไอทีคืออะไร

บทบาทและประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศ

ด้วยความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทําให้มีการคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยี
สารสนเทศที่อํานวยความสะดวกสบายต่อการดํารงชีวิตมากขึ้นเช่น การบันทึกกําหนดการของแต่ละวันด้วยสมาร์ทโฟน การซื้อสินค้าผ่านระบบอินเทอร์เน็ต การส่งข้อมูลมัลติมีเดียต่างๆผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตด้วยสมาร์ทโฟนการใช้ระบบสารสนเทศเพื่อการคิดราคาสินค้าตามห้างสรรพสินค้า และการคิดเงินเดือนพนักงานของบริษัท เป็นต้น สําหรับการเรียนการสอนในบทเรียนนี้จะนําเสนอเทคโนโลยีสารสนเทศในปจจจุบัน และระบบสารสนเทศที่มีประโยชน์ต่อนิสิตในด้านต่างๆ เช่น ด้านการศึกษา ด้านบันเทิง ด้านการเงินการธนาคาร และระบบสารสนเทศของหน่วยงานภาครัฐ เป็นต้น



ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ

เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) คือ การประยุกต์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์เพื่อนํามาจัดการสารสนเทศที่ต้องการ โดยอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่ อาทิเช่น เทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีด้านเครือข่ายโทรคมนาคมและการสื่อสาร และอาศัยความรู้กระบวนการดําเนินงานสารสนเทศตั้งแต่ขั้นตอนการแสวงหา การวิเคราะห์ การจัดเก็บ ตลอดจนถึงการเผยแพร่สารสนเทศและแลกเปลี่ยนสารสนเทศ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ ความถูกต้อง ความแม่นยํา และความรวดเร็วต่อการนํามาใช้ประโยชน์


องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ

เทคโนโลยีสารสนเทศประกอบด้วยองค์ประกอบพื้นฐานที่สําคัญ 2 ส่วน คือ 


  • เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ 
  • เทคโนโลยีการสื่อสารและโทรคมนาคม
1. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ (Computer Technology)
คอมพิวเตอร์ หมายถึง “เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ทําหน้าที่เสมือนสมองกล ใช้สําหรับ
แก้ปัญหาต่างๆ ทั้งที่ง่าย และซับซ้อน โดยวิธีทางคณิตศาสตร์” จากคํานิยามข้างต้นสามารถนํามาเขียนโดยสรุป คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างหนึ่งที่มีความสามารถในการคํานวณอัตโนมัติตามชุดคําสั่ง สามารถนําไปประยุกต์ใช้กับปจญหาเล็ก จนถึงปัญหาใหญ่ได้ โดยมีกระบวนการทํางาน ตั้งแต่การรับข้อมูลเข้า (Input) เพื่อทําการประมวลผล (Process) และนํามาแสดงผลลัพธ์ (Output)ตลอดจนถึงการเก็บข้อมูล (Storage) จึงทําให้คอมพิวเตอร์นําไปใช้กันอย่างกว้างขวาง 
2. เทคโนโลยีการสื่อสารและโทรคมนาคม
เป็นองค์ประกอบที่ทําหน้าที่เผยแพร่ แลกเปลี่ยนสารสนเทศไปยังผู้ที่ต้องการในแหล่งต่างๆ ได้อย่าง
สะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง ครบถ้วน และทันสถานการณ์ โดยสารสนเทศในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนซึ่งกัน

ประเภทของเทคโนโลยีสารสนเทศ

ประเภทของเทคโนโลยีสารสนเทศในที่นี้จะแบ่งตามขนาดออกเป็น 3 ขนาด ได้แก่
  • 1.ขนาดเล็ก เทคโนโลยีสารสนเทศขนาดเล็ก โดยส่วนมากเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ส่วนบุคคล ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สําหรับ
    อํานวยความสะดวกในด้านต่างๆ เฉพาะบุคคลที่จําเป็นต้องใช้ในชีวิตประจําวัน โดยสามารถที่จะสนับสนุนให้การ
    ดําเนินชีวิตประจําวัน หรือการทํางานของแต่ละบุคคลเป็นไปได้อย่างราบรื่น สามารถยกตัวอย่างเทคโนโลยีต่างๆ
    ได้ดังนี้ คอมพิวเตอร์ (Computer), สมาร์ทโฟน(Smart Phone) , แท็บเล็ต(Tablet) , GPS , Smart Card , บัตรเครดิตหรือบัตรสินเชื่อ (Credit Card) , 
  • 2.ขนาดกลาง เทคโนโลยีสารสนเทศขนาดกลางโดยส่วนใหญ่จะเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศสําหรับครอบครัว ใช้
    สําหรับอํานวยความสะดวกในครัวเรือน ในด้านการใช้ชีวิตประจําวันในครอบครัว สามารถยกตัวอย่างเทคโนโลยี
    ต่างๆ ได้ดังนี้    อินเทอร์เน็ต (Internet) , โทรทัศน์ตามสาย ผ่านดาวเทียม และไอพีทีวี(Cable, Satellite and IP TV) , กล้องวงจรปิด หรือ Closed Circuit Television(CCTV)
  • 3.ขนาดใหญ่  เทคโนโลยีสารสนเทศขนาดใหญ่โดยส่วนใหญ่จะเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศสําหรับองค์กร ใช้สําหรับ
    สนับสนุนการทํางานในด้านต่างๆ ในองค์กร อํานวยความสะดวกในการทํางาน ทําให้การทํางานเป็นไปได้ด้วยความ
    สะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นที่ยอมรับได้ ซึ่งเทคโนโลยีต่างๆสามารถยกตัวอย่างได้ดังนี้  ระบบเครือข่าย (Networking System) ,  การประชุมทางไกล (Teleconference) , การใช้คอมพิวเตอร์ในการฝึกอบรม (Computer Base Training) , การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบ (Computer Aided Design :CAD) , เทคโนโลยีบ่งชี้ด้วยคลื่นความถี่วิทยุ(Radio Frequency Identification : RFID) , QR Code 

บทบาทของระบบสารสนเทศ

ระบบสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการดําเนินชีวิตของเรา เนื่องด้วยวิวัฒนาการด้านการสื่อสารโทรคมนาคมและคอมพิวเตอร์ในปจจจุบัน ทําให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูล รวมถึงแบ่งปจนข้อมูลได้อย่างสะดวกและรวดเร็วตัวอย่างบทบาทของระบบสารสนเทศ เช่น การลงทะเบียนออนไลน์ การเพิ่ม-ถอนวิชาเรียนการจองตั๋วภาพยนตร์ เป็นต้น โดยสามารถแบ่งตามบทบาทของระบบสารสนเทศได้ดังนี้

ระบบสารสนเทศในชีวิตประจำวัน
ในชีวิตประจําวันของเรามีระบบสารสนเทศที่อํานวยความสะดวกในด้านต่างๆมากมาย เช่น ด้านการศึกษาด้านการเงินการพาณิชย์ ด้านการสาธารณสุข และด้านความบันเทิง

ระบบสารสนเทศในมหาวิทยาลัย
  • ระบบบริการการศึกษา หรือระบบทะเบียน
  • ระบบหอสมุด
  • ระบบประเมินประสิทธิภาพการเรียนการสอน
  • ระบบการเรียนการสอนออนไลน์
ระบบสารสนเทศในภาคธุรกิจ

1. ระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร (Enterprise Resource Planning : ERP)
ลักษณะของระบบสารสนเทศก่อนการนำระบบ ERP มาใช้ในองค์กร
  • การขาดการประสานรวมกันของระบบงาน
  • ข้อมูลซ้ําซ้อน และขาดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
  • การขาดความรวดเร็วในการตอบสนอง
  • ขาดความสามารถด้าน Globalization
  • ความไม่ยืดหยุ่นของระบบสารสนเทศ
2. การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relation Management : CRM)
หลักสำคัญในการทำระบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์มีดังนี้
  • ฐานข้อมูลของลูกค้า
  • เทคโนโลยีสนับสนุน
  • การปฏิบัติเพื่อรักษาลูกค้า
  • การประเมินผล
3. บริการโทรศัพท์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Voice over Internet Protocol : VoIP)
ประโยชน์ที่ได้รับจาก VoIP
  • ลดค่าใช้จ่าย
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
  • ใช้ร่วมกับอุปกรณ์สื่อสารไร้สายต่างๆ
  • รองรับการขยายตัวขององค์กรในอนาคต
้อจำกัดของ VoIP
  • ยังต้องพัฒนาด้านความน่าเชื่อถือ
  •  ขาดมาตรฐานรองรับ 
  • ต้นทุนของเทคโนโลยี VoIP ยังมีราคาสูง
  • ระบบโทรศัพท์ผ่านเครือข่ายไอพี (IP Telephony) ยังสามารถเติบโตต่อไปได้ 
  •  การเปลี่ยนระบบจากระบบ PSTN เป็น VoIP นั้น จําเป็นต้องมีผู้จําหน่ายอุปกรณ์ และทีมติดตั้งระบบ
  • การขาดมาตรฐานด้านอุปกรณ์โครงข่าย
  • กฎหมายด้านโทรศัพท์ผ่าน Internet Protocol ปจจจุบันยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องกฎหมาย

แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต

ทิศทางในอนาคตของเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกเป็น 3 ด้านดังนี้
1. การลดขนาดอุปกรณ์ด้านคอมพิวเตอร์ (Miniaturization)
2. ความเร็วในการทํางาน (Speed)
3. ความสามารถในการซื้อ (Affordability)


ทิศทางของเทคโนโลยีด้านโทรคมนาคม

1. ด้านการเชื่อมต่อ (Connectivity)
2. ด้านการสื่อสารแบบโต้ตอบ (Interactivity)
3. ด้านสื่อประสม (Multimedia)

ทิศทางของเทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถแบ่งออกเป็น 4 ด้านดังนี้

1. การหลอมรวมเทคโนโลยี (Convergence)
2. การพกพาและเคลื่อนที่ (Portability and Mobility)
3. เทคโนโลยีส่วนบุคคล (Personalization)
4. การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ (Cloud Computing

จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

คุณธรรมจริยธรรมเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ จะกล่าวถึงใน 4 ประเด็น ที่รู้จักกันในลักษณะตัวย่อว่า PAPAประกอบด้วย
1. ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy)
2. ความถูกต้อง (Information Accuracy)
3. ความเป็นเจ้าของ (Information Property)
4. การเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility)

บทที่1 เทคโนโลยีล้ำๆรอบตัวเรา


บทที่ 1 เทคโนโลยีล้ำๆ รอบตัวเรา




วัตถุประสงค์

1. รู้จักและทำความคุ้นเคยเทคโนโลยีสำรสนเทศในชีวิตประจำวัน
2. สามารถยกตัวอย่างเทคโนโลยีได้
3. สามารถบอกประโยชน์และโทษของเทคโนโลยีสารสนเทศได้



เทคโนโลยี   หมายถึง สิ่งที่มนุษย์พัฒนาขึ้น เพื่อช่วยในการทำงานหรือแก้ปัญหาต่าง ๆ เข่น อุปกรณ์, เครื่องมือ, เครื่องจักร, วัสดุ หรือ แม้กระทั่งที่ไม่ได้เป็นสิ่งของที่จับต้องได้ เช่น กระบวนการต่าง ๆ
เทคโนโลยี เป็นการประยุกต์ นำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ และก่อให้เกิดประโยชน์ ในทางปฏิบัติ แก่มวลมนุษย์กล่าวคือเทคโนโลยีเป็นการนำเอาความรู้ ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนที่เป็นข้อแตกต่างอย่างหนึ่งของเทคโนโลยี กับวิทยาศาสตร์ คือเทคโนโลยีจะขึ้นอยู่กับปัจจัย ทางเศรษฐกิจเป็นสินค้ามีการซื้อขาย ส่วนความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เป็นสมบัติส่วนรวมของ ชาวโลกมีการเผยแพร่โดยไม่มีการซื้อขายแต่อย่างใดกล่าวโดยสรุปคือ เทคโนโลยีสมัยใหม่เกิดขึ้นโดยมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นฐานรองรับ



เทคโนโลยีรอบตัวเรา

ในการใช้ชีวิตประจำวันของเราจะมีเทคโนโลยีเกี่ยวข้องกับเราตลอดเวลา มีทั้งการใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น 
  • ตั้งแต่ตื่นนอน (Smart sleep system)
  • การเดินทาง (การเตรียมการเดินทาง:พยากรณ์อากาศ และ ข่าวสาร หรือ GPS)
  • การเรียน ( ระบบห้องสมุด Smart Library , E-learning)
  • การพักผ่อน ( เช่น Smart Phone App , Augmented Reality)
  • ด้านสุขภาพ ( E-Hospital )
  • ช้อปปิ้ง ( E-commerce )



ตัวอย่างของเทคโนโลยีล้ำๆ

การใช้ GPS มาใช้ในการนำทาง
GPS ย่อมาจาก Global Positioning System หรือ "ระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก"  โดยอำศัยการคำนวณจากดาวเทียม จำนวน 24 ดวง ที่โคจรอยู่รอบโลก ในระดับควำมสูงประมาณ 20,000 กิโลเมตร แต่เดิมระบบนี้ ถูกใช้ในกิจการทหารของสหรัฐอเมริกาและได้พัฒนาจนนิยมใช้งานทั่วโลก  ปัจจุบันนำไปใช้กับงานหลากหลายเช่น  การทำแผนที่  การนำทาง  การรังวัดที่ดิน อุปกรณ์ช่วยชีวิต เช่น เสื้อชูชีพที่มีเครื่องส่งสัญญาณ GPS การวางแผนเส้นทางส่งสินค้า  คำนวณสุขภาพ วัดความเร็ว ระยะทาง แคลอรี่ที่เผาผลาญ กำหนดจุดตกปลา เครื่องบิน/รถบังคับวิทยุ ระบบการควบคุมหรือติดตามยานพาหนะ






ประโยชน์และโทษของเทคโนโลยี

ตัวอย่างประโยชน์ของเทคโนโลยี

  • ติดต่อสื่อสารกันได้สะดวกรวดเร็ว
  • มีข้อมูลจำนวนมหาศาลในระบบ เรียกใช้ได้สะดวก
  • ลดอุปสรรคเกี่ยวกับเวลาและระยะทาง
ตัวอย่างโทษของเทคโนโลยี
  • เปลืองทรัพยากร เช่น ไฟฟ้า
  • ส่งเสริมวัตถุนิยม
  • ขาดการออกกำลังกาย
  • ทำให้เกิดปัญหาการว่างงาน เพราะใช้เครื่องจักรแทนคน
  • มีโลกส่วนตัวขาดการติดต่อกับผู้อื่น
  • เกิดช่องว่างระหว่างผู้สูงอายุกับเด็ก

ข่าวเกี่ยวกับไอที 1



คลอดแล้ว! ชิปที่รองรับมาตรฐานในการรับ และส่งสัญญาณ Wi-Fi แห่งอนาคต 802.11ax ที่เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 4 เท่า!!


ก่อนที่เราจะไปดูความสามารถของชิปทั้ง 2 ตัวจาก Qualcomm ที่รองรับมาตรฐานเครือข่ายไร้สายแห่งอนาคตตัวล่าสุดอย่าง 802.11ax เรามาทำความรู้จักเจ้าตัวเลข 802.11 กันก่อนดีกว่า เอาง่ายๆ มันก็ก็คือตัวเลขมาตรฐานการทำงานของระบบเครือข่ายไร้สาย (ที่เรียกติดปากกันว่า Wi-Fi นั่นแหละ) แล้วสำหรับตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ตามหลังเจ้าเลขดังกล่าวนี้ มันคือสิ่งที่แสดงถึงชนิดของเทคโนโลยีไร้สายนั้น โดยมาตรฐานดังกล่าวนั้นมีมาตั้งแต่ปี 1999 ในชื่อ 802.11b ตามมาด้วย 802.11a แล้วก็ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาเรื่อยๆ จนเกิด 802.11g, 802.11n และ 802.11 ac ที่เป็นมาตรฐานล่าสุด

แล้ว 802.11ax คืออะไร
มันก็คือมาตรฐานใหม่ของระบบเครือข่ายไร้สาย ที่นอกจากจะถูกพัฒนาให้สามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้นกว่าเดิม (802.11ac) ถึง 4 เท่าตามทฤษฎีแล้ว มันยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในการจัดการสัญญาณให้ดีขึ้นอีกด้วย แถมมันรองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ที่ใช้มาตรฐานเก่าๆ พร้อมช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการสัญญาณในอุปกรณ์เก่าๆ ได้อีกด้วยนะ ซึ่งชิปทั้งสองตัวอย่างชิป IPQ8074 ที่ใช้ส่งสัญญาณ Wi-Fi ในแอคเซสพอยต์ หรือเราเตอร์  และชิป QCA6290 ที่ใช้รับสัญญาณ Wi-Fi ในอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเครื่องคอมพิวเตอร์, แล็ปท็อป หรือ สมาร์ทโฟน ฯลฯ ก็สามารถรองรับเจ้า มาตรฐาน 802.11ax นี้


IPQ8074 คือชิปที่มีขนาดการผลิต 14 นาโนเมตร ขับเคลื่อนด้วย CPU A53 quad-core สถาปัตยกรรม 64 บิต ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในงานหลายรูปแบบทั้ง เกตเวย์ และเราเตอร์ มาพร้อมฟีเจอร์ Self-Organizing Network (SON) ที่จะช่วยจัดการความหนาแน่นของสัญญาณ และเทคโนโลยี MU-MIMO (Multi User - MIMO) ที่จะช่วยให้อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการกระจายสัญญาณ Wi-Fi สามารถส่งข้อมูลหลายๆ ชุด ไปให้ผู้ใช้หลายคนได้พร้อมๆ กัน เป็นผลให้สามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วสุดถึง 4.8 Gbps 


QCA6290 คือชิปที่อยู่ในอุปกรณ์รับสัญญาณ ที่จะมีฟีเจอร์ Dual Band Simultaneous (DBS) ในการควบรวมคลื่นสัญญาณทั้งแบบความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz เข้าด้วยกัน ทำให้สามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุดถึง 1.8 GBps แถมยังมีความสามารถลดการใช้พลังงานลงจากเดิมถึง 2 ใน 3 อีกด้วย
จากการคาดการณ์ตามคำบอกเล่าของ Qualcomm ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้น ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นเจ้าชิปทั้ง 2 ตัว ในอุปกรณ์ไอทีในช่วงปลายปีนี้ก็เป็นได้





วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ประวัติส่วนตัว

ประวัติ ( ของเจ้าของBlogger >///< )


ประวัติส่วนตัว

ชื่อ-สกุล : นางสาวอัญญานี  รักษ์จันทร์
ชื่อเล่น : อัญ
อายุ : 20
วันเกิด : 19 พฤศจิกายน 2539
สีที่ชอบ : สีชมพู
ตัวการ์ตูนที่ชอบ : โดราเอม่อน
สิ่งที่ชอบ : ชอบกินและนอน 555 -..-
สิ่งที่ชอบที่สุด : โอปป้า>///< (เอาเป็นว่าเค้าเป็นติ่งโอปป้าเกาหลี อิอิ)


ประวิติการศึกษา

อนุบาล: โรงเรียนยุวศึกษา
ประถม1-6 : โรงเรียนยุวศึกษา
มัธยมศึกษาที่1 : โรงเรียนเทศบาล3
มัธยมศึกษาที่2-6 : โรงเรียนท่าฉางวิทยาคาร
ปัจจุบัน : กำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยตาปี ชั้นปีที่1


สถานที่ที่ชอบและประทับใจ

เอิ่มมม -..- ขึ้นหัวข้อนี้ยากเลยไม่ค่อยได้ไปไหนด้วยสิ555  เอาเป็นว่า ภูเก็ต แล้วกันเหตุผลที่ชอบก็คงเพราะไปใช้ชีวิตอยู่ภูเก็ตมาตั้งเกือบ3ปีเลยน่ะไปเที่ยวมาเยอะอยู่ ภูเก็ตนี่สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มรูปแบบเลยก็ว่าได้ผังเมืองเค้าวางดีน่ะ มีเมืองเก่าที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ดูอยู่ ตื่นเช้ามาต้องไปกินติ่มซำซ่ะหน่อยอาหารเช้าของคนภูเก็ตเลยนะ ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่สะพานหินก็ดีนะ (ตื่นทันเหรอ555)
กลางวันก็เที่ยวสิภูเก็ตมีอะไรดีละ ทะเลไงสวยที่สุดแล้ว เที่ยวไปคะที่ทะเลเยอะมาก ป่าตอง ( อันนี้แหละนำตอนกลางคืน เด็ดมากบอกเลย ) หาดไม้ขาว อันนี้ไปถ่ายรูปสวยมากรอจังหวะที่เครื่องบินมากะให้ดีเหมือนอยู่บนหัวเลย  ตอนเย็นนี้รีบเลยไปแหลมพรหมเทพไปดูพระอาทิตย์ตกสวยมากๆๆๆ   เหนื่อยแล้วตกดึกก็งานวัดสิน่ะ งานวัดฉลองงานประจำปีที่นี่น่าเดินมาก แต่ถ้าไม่ถึงช่วงที่มีก็สะพานหินมีงานประจำปีเหมือนงานวัดมั่งอารมณ์ประมานนั้น >.< ปีหนึ่งมี365วัน ที่สะพานหินมีงานซ่ะ 300วันได้มั้ง (อันนี้ล้อเล่นแต่จริงนั้นแหละ )  สุดท้ายนี้ *** บล็อกนี้สร้างขึ้นเพือการเรียนไม่ได้มาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและคงไม่ได้มีใครเข้ามาอ่านหรอกแค่พิมพ์เพลินไปหน่อย